ไก่ชนภาคใต้ ที่มาพร้อมกับการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุด

                เมื่อเข้าสู่การแข่งขันสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการที่ ไก่ชนภาคใต้ ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มจิกตีกันโดยทันที ซึ่งการชนกันนี้ไม่ใช่ว่าใครจะบังคับ หรือสั่งเอาได้แต่เป็นสัญชาตญาณที่เมื่อเจอตัวผู้จ่าฝูงด้วยกันก็จะกลายเป็นศัตรูกันไปโดยอัตโนมัติ และถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ก็ย่อมที่จะไม่มีใครยอมใคร สิ่งที่ตามมาก็คือการประกาศความเป็นจ่าฝูงใส่กันแล้วแย่งตำแหน่งความเป็นจ่าฝูงกลับมา ซึ่งถือว่าเป็นการตีกันที่ต้องดุเดือดที่สุด เพราะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จะล้มไปหรือไม่ก็ตายไปเลยเช่นกัน

จากการละเล่นที่สนุกสนานพัฒนามาสู่การแข่งขันที่สนุกที่สุด

                เมื่อสมัยโบราณนั้นไก่ชนมาจากไก่ป่าที่เมื่อมีชาวบ้านไปสร้างบ้านเรือน แล้วต้องมีการเลี้ยงไก่เพื่อเอามาเป็นอาหาร ไก่ป่าเหล่านี้ที่เคยอยู่ในป่าเมื่อรู้สึกว่าคุ้นเคยก็จะออกมาหาเศษอาหารกินใกล้กับบ้านเรือนของคนมากขึ้น และส่วนหนึ่งก็มาผสมพันธุ์กับไก่บ้านที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อทำเป็นอาหาร จนกระทั่งเมื่อไก่ตัวผู้ 2 ตัวได้เกิดการตีแย่งความเป็นจ่าฝูงกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ ผู้ที่เป็นเจ้าของไก่และเพื่อนบ้านจึงได้มานั่งล้อมวงดูการตีของไก่ทั้ง 2 ตัว จากนั้นจึงเริ่มที่จะนำไก่ที่มีอยู่มาลงชนกันเองและเริ่มที่จะวางเงินเดิมพันเป็นเครื่องต่อรงของเจ้าของไก่แต่ละตัว ซึ่งในสมัยก่อนนั้นไม่มีวิธีการที่ดูยุ่งยากเท่ากับในปัจจุบันนี้ ตีกันแค่พอรู้ผลว่าไก่ของใครจะหนีก็เท่านั้น แต่เมื่อถูกพัฒนามาให้เป็นการแข่งขันที่มีมูลค่าการวางเดิมพันที่มากมายจึงต้องมีการลงตีกันที่ดุเดือดเพื่อให้ได้ใจคนดู และต้องตีเพื่อให้อีกฝ่ายนองเลือดหรือไม่ก็ชนะอย่างขาดลอยเพื่อฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ตายก็พิการ จนเมื่อมีเรื่องของการ้องเรียนว่าทารุณกรรมสัตว์ กติกาก็เริ่มเข้ามามีบทบาทที่มากขึ้น เพื่อเป็นการบังคับไม่ตีกันจนถึงขั้นตายอีกต่อไป

เพื่อเป็นการลดปัญหาจากคำครหาของผู้ที่มองว่ากีฬาชนไก่เป็นกีฬาของการทารุณกรรมสัตว์

จึงทำให้ต้องมีกติกาที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะตีกันแค่เพียงไก่วิ่งหนีหรือนิ่งไปเพราะยอมแพ้แล้วก็จะปรับแพ้โดยทันที จะไม่มีการรอให้ตีกันจนถึงเลือดถึงเนื้อหรือไม่ก็ตายไป เพื่อเป็นการลดการตายในไก่ชนลง พร้อมทั้งการแข่งขันที่มียกการแข่งขันเหมือนนักมวยทุกประการ แต่จะมีเวลาให้พักกราดน้ำ กราดแดด ให้น้ำกันเป็นเวลาถึง 20 นาที เพื่อไม่ให้ไก่บอบช้ำจนเกินไป