นอกจากการตีไก่จะเป็นเกมการพนันพื้นเมืองที่มีมาแต่โบราณแล้ว การเล่นพนัน ไก่ชนภาคใต้ ยังจัดเป็นกีฬาสากลที่ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ให้กับเซียนไก่ชน, เจ้าของบ่อน, ผู้เพาะพันธุ์ไก่ชนและเปิดตลาดส่งออก ไก่ชนภาคใต้ สู่ตลาดชนไก่ในต่างประเทศอีกด้วย จากการศึกษาพบว่าเจ้าของบ่อน ไก่ชนภาคใต้ เกมพนันทำเงิน ในประเทศไทยสามารถสร้างรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยที่เงินเดิมพันทั้งหมดรวมจากทุกบ่อนพนันในการเล่นตี ไก่ชนภาคใต้ เกมพนันทำเงิน นั้น คาดการณ์ว่าน่าจะสูงถึงปีละ 36 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้เล่นพนันชนไก่สามารถเลือกสไตล์การลงเงินพนันได้ 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการวางเดิมพัน หรือ การเล่นนอกก็ตาม โดยมีรายละเอียดของการวางเงินดังนี้
- การเดิมพันไก่ชน: การวางเดิมพันไก่ชนมักจะเกิดขึ้นระหว่างเจ้าของไก่ชนทั้ง 2 ฝ่ายที่นำไก่ชนของตนลงเปรียบคู่ดูเชิง ซึ่งการวางเดิมพันจะมีอัตราต่อรองที่ต่ำกว่าการพนันแบบเล่นนอก และมักจะวางเดิมพันกันก่อนที่ไก่ชนทั้ง 2 ฝ่ายจะลงสังเวียนชนไก่ โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เลือกพนันเดิมพันไก่ชนลักษณะนี้ จะชื่นชอบไก่ชนบางตัวเป็นพิเศษ ซึ่งโอกาสได้เสียสูงมาก
- การพนันแบบเล่นนอก: เนื่องจากกีฬาไก่ชนมักมีความเปลี่ยนแปลงของชั้นเชิงเกิดขึ้นตลอดการตีไก่แต่ละคู่ การพนันต่อรอง หรือ การเล่นนอก จึงเป็นการเดิมพันระหว่างที่ไก่กำลังชนกันซึ่งเงินเดิมพันจะสูงกว่าและแต้มต่อรองจะแตกต่างชัดเจน เช่น 5 ต่อ 1 หรือ 10 ต่อ 1 ส่วนใหญ่ผู้เล่นพนันมืออาชีพจะเลือกวางพนันแบบเล่นนอกเพราะต้องการสังเกตชั้นเชิงของไก่ชนแต่ละตัวก่อนจะออกเสียงบอกราคาต่อรองและลวงให้ผู้เล่นรายอื่นวางเดิมพัน
อย่างไรก็ตาม รูปแบบของบ่อนไก่ชนในปัจจุบันนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะด้วยกัน คือ บ่อนชนไก่เชิงธุรกิจที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นมาอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งมักจะเปิดให้บริการในวันเสาร์หรืออาทิตย์เท่านั้น โดยจะแบ่งรอบการชนไก่ออกเป็น 10 – 12 คู่ต่อวันและสามารถรองรับผู้เล่นพนันชนไก่ได้ไม่ต่ำกว่า 300 คนต่อรอบ ในขณะที่บ่อนป่า หรือ บ่อนบ้าน เป็นบ่อนไก่ชนที่เงินเดิมพันต่อคู่ไม่สูงนักและมักจะมีการเปิดสังเวียนชนไก่กันเป็นประจำทุกสัปดาห์อย่างน้อย 1 วัน โดยมีไก่ออกชนราว ๆ 3 คู่ ซึ่งรูปแบบของบ่อนป่านี้จะกระจายตัวอยู่ตามตำบลต่าง ๆ และส่วนมากจะไม่ได้รับอนุญาตตามพรบ. การพนัน ดังนั้น ผู้เล่นจึงควรมองหาบ่อนไก่ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจะเหมาะสมกว่า